กุญแจสู่ การซื้อขาย ฟิวเจอร์ส ข้าวโพด

กุญแจสู่การซื้อขายฟิวเจอร์สข้าวโพด โดยการโยนสกี้ สินค้าโภคภัณฑ์ผู้เชี่ยวชาญ ฟิวเจอร์สเทรดดิ้งข้าวโพดสามารถถูกทำให้อ่อนลงอย่างเป็นธรรมในช่วงฤดู​​หนาวในขณะที่ฤดูร้อนนี้ไม่ได้สำหรับลมของหัวใจ รายงานการตรวจสอบเป็นครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิเป็นความตั้งใจที่จะปลูกรายงานจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา รายงานนี้ถูกปล่อยออกมาในช่วงปลายเดือนมีนาคม รายงานนี้จะตั้งค่าเสียงสำหรับตลาดสำหรับฤดูกาล มันบอกเราจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เกษตรกรตั้งใจในการปลูกพืชแต่ละ ไร่น้อยกว่าที่มีการปลูกที่มีโอกาสน้อยกว่าสำหรับการเพาะปลูกที่มีขนาดใหญ่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะใช้เวลาจำนวนไร่และคูณด้วยอัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มที่จะได้รับคาดว่าขนาดของพืชสำหรับฤดูกาล ความต้องการเป็นส่วนถัดไปของสมการเมื่อพยายามที่จะคิดสำหรับการประเมินราคาข้าวโพด เกี่ยวกับร้อยละ 40 ของผลผลิตข้าวโพดไปผลิตเอทานอล ส่วนใหญ่ที่เหลือไปให้อาหารสำหรับปศุสัตว์ น่าแปลกที่เพียงส่วนเล็ก ๆ ไปที่การบริโภคของมนุษย์ที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบราคาของน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นตัวกำหนดความต้องการเอทานอล ราคาข้าวโพดราคาถูกและราคาที่สูงน้ำมันดิบมักจะนำไปสู่​​การเพิ่มขึ้นของความต้องการเอทานอล กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่รายงานการส่งออกทุกวันพฤหัสบดีซึ่งรายละเอียดความต้องการสำหรับการส่งออกข้าวโพด ตลาดส่งออกที่แข็งแกร่งมักจะเป็นที่ดีสำหรับราคาข้าวโพดที่จะย้ายที่สูงขึ้น อ่านต่อด้านล่าง นอกจากนี้ยังแนะนำให้ตรวจสอบราคาข้าวโพดจากประเทศผู้ส่งออกอื่น ๆ หากราคาของข้าวโพดสหรัฐจะสูงกว่าประเทศคู่แข่งอื่น ๆ แล้วโอกาสของตลาดส่งออกที่แข็งแกร่งจะลดลง ฤดูร้อนคือเมื่อการซื้อขายฟิวเจอร์สข้าวโพดจะใช้เวลาในอีกมิติหนึ่ง ราคาข้าวโพดสูงมักจะตั้งอยู่ระหว่างปลายเดือนมิถุนายนและสิงหาคมข้าวโพด นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากสภาพอากาศที่กลัวว่าจะเกิดขึ้นในช่วงฤดู​​ร้อน ความร้อนสูงและภัยแล้งในมิดเวสต์เป็นความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการค้าข้าวโพด ช่วงกลางถึงปลายเดือนกรกฎาคมคือเมื่อข้าวโพดจะต้องผ่านขั้นตอนการผสมเกสรของสำคัญ ข้าวโพดต้องการความชื้นและอุณหภูมิปานกลางเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพืชที่ให้ผลผลิตสูงและมีสุขภาพดีในระยะนี้ ใกล้ความร้อนสูง 100 องศาและดินแห้งจะเกิดความเสียหายพืชผลและนำไปสู่​​อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่า นี้เห็นได้ชัดจะทำให้ราคาข้าวโพดจะเพิ่มขึ้น รัฐหลักในการดูรายงานสภาพอากาศมีไอโอวาเนบราสก้า, อิลลินอยส์อินเดียนาและโอไฮโอ เหล่านี้เป็นข้าวโพดที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตรัฐ มักจะมีกระเป๋าที่มีผลต่อภูมิภาคท​​ี่มีขนาดเล็ก แต่ครั้งในขณะที่จะมีภัยแล้งอย่างกว้างขวางและคลื่นความร้อน เหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่สามารถทำให้ราคาข้าวโพดเพื่อ skyrocket ส่วนใหญ่ของกรณีที่เกิดเป็นเพียงสภาพอากาศที่กลัวความเสียหายของวัสดุเล็ก ๆ น้อย ๆ จะทำเพื่อการเพาะปลูกโดยรวม ตลาดมักจะชุมนุมกระนั้นออกจากความกลัวที่มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ บ่อยกว่าไม่ก็เป็นความคิดที่ดีที่จะมองหาโอกาสในการขายในช่วงฤดู​​ร้อน ข้าวโพดมีแนวโน้มตามฤดูกาลไปยังจุดสูงสุดของราคาในช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม ตลาดข้าวโพดยังสามารถทำให้ราคาสูงในช่วงฤดู​​ร้อนแม้ว่าจะมีปัญหาสภาพอากาศรุนแรง คำอธิบายนี้เป็นที่ตลาดจะเข้าสู่โหมดความตื่นตระหนกและราคาข้าวโพดทำงานสูงเกินไป ในบางจุดที่มีความต้องการจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อราคาขึ้นไปที่รุนแรง มันเป็นจริงงานตลาดเพื่อหาราคาที่จะยับยั้งความต้องการในการสั่งซื้อเพื่อเสบียงอาหาร กระบวนการนี​​้มักจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคาดหวัง มันมักจะเป็นเรื่องยากที่จะขายข้าวโพดเมื่อคุณเห็นภัยแล้ง wreaking ความเสียหายกับวันที่ผ่านทุกครั้ง แต่จะมีราคาที่สูงในที่ใดที่หนึ่งในนั้น โดยคมชัดราคาข้าวโพดมักจะทำระดับต่ำสุดของพวกเขาในช่วงเวลาการเก็บเกี่ยว นี้มักจะตกอยู่ประมาณเดือนพฤศจิกายน นี่คือเมื่ออุปกรณ์ที่ใหญ่ที่สุดออนไลน์หลังการเก็บเกี่ยวข้าวโพดและเกษตรกรจำนวนมากมีการขายพืชเงินสด ราคาข้าวโพดมีแนวโน้มที่จะมีความผันผวนน้อยกว่าในช่วงฤดู​​หนาวในขณะที่การส่งออกและความต้องการเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูข้าวโพด